ถึงขณะนี้ รูเบน อโมริม ได้รับการวางตัวให้เป็นเต็งหนึ่งกุนซือคนใหม่ของ ลิเวอร์พูล แม้นายใหญ่ทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน จะยืนยันคำเดิมว่าไม่สนใจข่าวลือ
หลังพลาดได้ตัว ชาบี อลอนโซ่ ที่ตกลงกุมบังเ***ยน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ต่อในซีซั่นหน้า โค้ชโปรตุกีสวัย 39 ปีก็ได้รับการคาดหมายว่าจะย้ายมารับงานแทน เจอร์เก้น คล็อปป์ อย่างแน่นอน
นอกจาก อโมริม แล้ว โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ กุนซือทีม ไบรท์ตัน เป็นอีกรายที่เชื่อว่าได้รับความสนใจจาก หงส์แดง เช่นกัน แต่ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวคนดังระบุว่าทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ไม่ได้มองไปถึงโค้ชอิตาเลี่ยนอีกแล้ว และเป็น บาเยิร์น มิวนิค ที่อาจคว้าเขาไปจากทีม นกนางนวล ให้เสียบแทน โธมัส ทูเคิ่ล
ว่าถึง อโมริม แม้จะเป็นกุนซืออายุน้อย แต่เขาสำแดงฝีมือพาทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน คว้าแชมป์ลีกฝอยทองได้ตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายจาก บราก้า มารับตำแหน่งกับสังเวียนแข้ง โชเซ่ อัลวาลาด ในซีซั่น 2020/21 ซึ่งเป็นแชมป์ลีกสมัยแรกของสโมสรในรอบ 19 ปีด้วย
สำหรับซีซั่นนี้ อโมริม พาทีมนำเป็นจ่าฝูงของลีกโดยมีแต้มมากกว่า เบนฟิก้า หนึ่งแต้ม แต่ สปอร์ติ้ง ลงเล่นน้อยกว่าหนึ่งเกม พร้อมสร้างผลงานยิงประตูได้มากที่สุดในลีก 77 ประตู แต่ก็เสียไปมากถึง 26 ประตู แย่กว่าทั้ง เบนฟิก้า และ ปอร์โต้ ทีมอันดับสามที่ไม่น่าจะมีลุ้นคว้าแชมป์แล้วในซีซั่นนี้
อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ว่าหากได้คุมทีม ลิเวอร์พูล ซึ่งลงเล่นในระบบ 4-3-3 ภายใต้การกำกับของ คล็อปป์ อโมริม จะเปลี่ยนให้ เร้ด แมชีน ลงบู๊ในระบบถนัดของเขา 3-4-3 แทนโดยโฉมหน้า 11 ขุนพลของถิ่น แอนฟิลด์ ในกำมือของอดีตกองกลางทีม เบนฟิก้า น่าจะเป็นดังนี้ภายใต้ข้อแม้ว่าทั้งหมดจะต้องเป็นมรกดตกทอดกุนซือด๊อยทช์
- ผู้รักษาประตู : อลิสซง
แน่นอนว่าแม้ ควีวิน เคลเลเฮอร์ จะโชว์ฟอร์มได้อย่างน่ายกนิ้วให้ แต่หาก อลิสซง หายเจ็บและฟิตสมบูรณ์ มือกาวทีมชาติ บราซิล จะได้กลับมาเฝ้าเสาในฐานะมือหนึ่งตามเดิม
ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะอดีตนายทวารทีม โรม่า ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก ขณะที่จอมเซฟทีมชาติ ไอร์แลนด์ จะต้องใช้เวลาสร้างชื่อต่อไปโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
- กองหลัง : อิบราฮิม่า โกนาเต้ , เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ , โจ โกเมซ
แม้ ฟาน ไดค์ จะยังไม่ต่อสัญญาใหม่ แต่ดาวเตะทีมชาติ ฮอลแลนด์ เรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้อีกหน และทำหน้าที่กัปตันแทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สำหรับคู่ขาในแดนหลังของ ฟาน ไดค์ จะได้แก่ โกนาเต้ ซึ่งจะรับผิดชอบพื้นที่ทางด้านขวา ขณะที่ โกเมซ ซึ่งพร้อมลงเล่นในหลากหลายตำแหน่งจะสวมบทปราการหลังฝั่งซ้าย
- กองกลาง : เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ , วาตารุ เอ็นโด , อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
คล็อปป์ ยืนยันกับนักข่าวอย่างชัดเจนว่า อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เป็นแบ็คขวาที่ดีที่สุดของ พรีเมียร์ลีก หลังถูกหลายเสียงเรียกร้องให้ส่งกองหลังจอมแอสซิสต์ลงเล่นเป็นมิดฟิลด์ แต่เชื่อว่า อโมริม จะใช้งาน รองเทรนต์ เป็นวิงแบ็คฝั่งขวา ขณะที่ ร็อบโบ้ จะได้ทำหน้าที่วิงแบ็คด้านซ้าย
ในส่วนของสองมิดฟิลด์ ให้น่าเสียดายแทน โดมินิค โซโบซไล สุดหล่อทีมชาติ ฮังการี เนื่องจาก เอ็นโด สตาร์ทีมชาติ ญี่ปุ่น จะได้รับภาระกองกลางตัวรับล้านเปอร์เซนต์ ขณะที่ แม็ค อัลลิสเตอร์ ขุนพลทีมชาติ อาร์เจนติน่า ที่ทั้งยิงประตูได้ และสร้างโอกาสได้จะเป็นเหมือนเพลย์เมคเกอร์ที่คอยปั้นเกมให้ทีม
- กองหน้า : โม ซาลาห์ , ดาร์วิน นูนเญซ , หลุยส์ ดิอาซ
เป็นพื้นที่ที่ อโมริม ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเนื่องจาก นูนเญซ กองหน้าทีมชาติ อุรุกวัย ที่มีทั้งความเร็ว และความแข็งแกร่งจะได้ลงเล่นเป็นหน้าเป้าตามเดิมแม้เจ้าตัวสมควรเพิ่มความเด็ดขาดในการทำประตูให้ได้มากกว่านี้
สำหรับ ซาลาห์ ไม่มีทางที่จะโดนดร็อปอย่างแน่นอนกับการสร้างความหวาดผวาให้กับคู่แข่งทางกราบขวาตามที่เจ้าตัวถนัด ขณะที่ ดิอาซ จะได้กระชากลากเลื้อยทางด้านซ้ายเช่นกันอันเป็นแผนการเล่นที่ คล็อปป์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถทำให้ ลิเวอร์พูล ขยับขึ้นมาเป็นจ่าฝูงได้
ถึงตรงนี้ต้องแสดงความผิดหวังกับดาวเตะหลายรายด้วยไม่ว่าจะเป็น ดีโอโก้ โชต้า, ไรอัน กราเฟนแบร์ก , คอเนอร์ แบรดลีย์ , โคดี้ กัคโป , จาเรลล์ ควานซ่าห์ , ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ และ ฯลฯ เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่ทั้งหมดจะก้าวขึ้นไปยึดตำแหน่งนักเตะตัวจริง แต่แน่นอนว่าพวกเขามีคุณค่ามากพอต่อการลุกจากม้านั่งข้างสนามลงไปพลิกสถานการณ์ให้กับสโมสร
สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufabet
|