Google Earth
![]() เครื่องมือที่อยู่ภายใต้ความสำเร็จนี้คือ XML (Extensible Markup Language) ซึ่งมีการกำหนดคุณสมบัติพิเศษขึ้นมาและเรียกว่า KML (Keyhole Markup Language) Google ใช้ KML นี้ในการสร้างชั้นข้อมูลต่าง ๆ การแสดงข้อมูลทั้ง จุด ลายเส้น หรือรูปหลายเหลี่ยมต่าง ๆ ล้วนสร้างมาจาก KML ทั้งสิ้น เวอร์ชันปัจจุบันเรียกว่า KML 2.0 ส่วนรูปแบบที่จัดเก็บไว้จะเป็นรูปแบบที่ประหยัดพื้นที่เรียกว่า KMZ ซึ่งกับคือ zip format ของ KML นั่นเอง สำหรับรูปแบบการทำงานของ Google Earth นั้นก็จะเป็นการทำงานแบบ client-server โปรแกรมส่วนที่พวกเราใช้งานจะเรียกว่า Google Earth client ซึ่ง Google ให้เรามาใช้งานฟรี เพื่อดูข้อมูลต่าง ๆ ภายใต้ข้อจำกัดเกี่ยวกับรายละเอียดของภาพ แต่จะว่าไปแล้วก็ไม่ได้ฟรีจริง ๆ นะ เพราะเขาก็จะได้ประโยชน์จากพวกเราในแง่ข้อมูลต่าง ๆ ที่พวกเราเข้าไปค้นหา และสะสมความรู้ที่ได้จากการค้นหาของพวกเราไว้ใช้งานต่อไป นอกจาก Google จะให้บริการแบบไม่คิดค่าใช้บริการแล้ว ยังมีการให้บริการในรูปแบบอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกัน เช่น สามารถนำข้อมูลจาก GPS receiver มาประกอบข้อมูลของ Google Earth ได้ รวมถึงการให้บริการสร้าง server ของตนเองขึ้นมาโดยการนำข้อมูลมารวมกับแหล่งข้อมูล GIS ของเราเองได้อีกด้วย
การนำไปให้บริการ
การให้บริการนี้ทำให้เกิดการให้บริการอื่น ๆ
ตามมาอีกมากมาย เช่น
ระบบที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย การขนส่ง
การออกแบบสถาปัตยกรรม
รวมไปถึงการทหารและการป้องกันประเทศอีกด้วย
ปัจจุบันมีการพัฒนาการให้บริการที่ผสมผสานกับข้อมูลของ
Google Earth หลายอย่างเช่น
ในธุรกิจอสังหารินทรัพย์
มีการแสดงภาพการพัฒนาที่ดิน ทำให้ผู้เกี่ยวข้อง
ตั้งแต่แหล่งเงินของโครงการ ไปจนถึงผู้ซื้อ
สามารถมองเห็นรูปแบบของโครงการได้อย่างชัดเจน
ทำให้การประเมินศักยภาพของโครงการเป็นไปด้วยความสะดวกและชัดเจน
การวางแผนการจัดการเกี่ยวกับผู้อยู่อาศัยก็สามารถ
เห็นภาพได้อย่างชัดเจน
รวมถึงจะเอื้อประโยชน์ต่อรุกิจอื่น ๆ อีกมากมาย
เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับที่พักอาศัย บ้านเช่าต่าง ๆ Google Earth ยังช่วยให้ธุรกิจงานทางด้านสถาปัตยกรรมและการก่อสร้างแสดงรูปแบบของโครงการในรูปแบบของ โมเดลของโครงการที่จะสร้างขึ้นมาว่า มีลักษณะเป็นอย่างไรเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ ![]()
คู่มือการใช้งาน ขั้นตอนการใช้งานโปรแกรม Google Earth
ดังนี้ ส่วนที่ 1 : การค้นหาตำแหน่งสถานที่ตั้ง (Search) เราสามารถทำการ Search ข้อมูลสถานที่ต้องการได้ โดยการกรอกข้อมูลลงในช่องกรอกรายละเอียดจากนั้นทำการกดปุ่ม Search โดยแบ่งเป็นประเภทของการค้นหาข้อมูลได้ 3 ลักษณะคือ - Fly to : ค้นหาแบบระบุชื่อสถานที่หรือกำหนดพิกัด - Local search : ค้นหาแบบกำหนดเงื่อนไขว่าต้องการหาอะไรที่ไหน (เช่นหาร้าน Pizza ที่เมือง San Francisco, CA) - Directions : ค้นหาแบบกำหนดเงื่อนไขว่าต้องการเดินทางจากเมืองต้นทางไปยังเมืองปลายทาง (โปรแกรมจะบอกเส้นทางว่าจะต้องเลี้ยวทิศไหนระยะทางเท่าไหร่บนถนนชื่ออะไร) ![]() ภายหลังจากกดปุ่ม Search คำว่า bangkok (แบบ
Fly to) โปรแกรมจะแสดงภาพของสิ่งที่เราค้นหา ส่วนที่ 2 : การเลือกสถานที่สำคัญจากทั่วโลก (Places) เราสามารถทำการค้นหาสถานที่สำคัญที่ต้องการจากทั่วโลกได้ โดยการคลิกที่ชื่อสถานที่นั้น(สามารถเพิ่มเข้าไปได้เองภายหลัง) และโปรแกรมจะแสดงภาพของสถานที่ดังกล่าวเช่นเดียวกับใช้คำสั่ง Fly to ใน Search *ในภาพคือ Oly Australia ![]() ่ ส่วนที่ 3 :
แสดงตำแหน่งที่ตั้งจากข้อความสำคัญ
(Layer)
เราสามารถทำการปรับการแสดงผลบนแผนภาพโดยการกดปุ่มต่างบน - Navigation Panel - Zoom in, Zoom out : ขยายและย่อขนาดภาพ - Rotate left, Rotate right : หมุนภาพ - ปุ่มลูกศร : สำหรับเลื่อนแผนภาพไปยังทิศที่ต้องการ - Tilt up, Tilt down : เลื่อนองศาของการมองจากแนวราบถึงแนวดิ่ง (0-90 °) ภาพภูเขาไฟฟูจิเมื่อมองในแนวดิ่ง ภายหลังจากปรับมุมมองและขยายภาพ
|