ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้  โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเชิงบูรณาการด้วยบทเพลงและภาพ  เรื่องภูมิลักษณ์รักษ์วิถีภาคใต้  เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์  กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม  ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้วิจัย นางสาวชุดาภัทร์  ยืนยง  โรงเรียนเทศบาลวัดเสาธงทอง  สำนักการศึกษา          
                     เทศบาลนครนครศรีธรรมราช
ปีที่ดำเนินการ 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการเรียนสังคมศึกษาและการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้  เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์ (2) เพื่อสร้างและพัฒนาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้  โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเชิงบูรณาการด้วยบทเพลงและภาพ  เรื่องภูมิลักษณ์รักษ์วิถีภาคใต้  กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์ 80/80 (3) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ก่อนและหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้  โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเชิงบูรณาการด้วยบทเพลงและภาพ  เรื่องภูมิลักษณ์รักษ์วิถีภาคใต้  กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้  โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเชิงบูรณาการด้วยบทเพลงและภาพ  เรื่องภูมิลักษณ์รักษ์วิถีภาคใต้  กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 32 คน ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบอย่างง่าย (Simple  Random Sampling) ด้วยการจับฉลากโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย (1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้  โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเชิงบูรณาการด้วยบทเพลงและภาพ เรื่องภูมิลักษณ์รักษ์วิถีภาคใต้  (2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์  แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน  40 ข้อ (3) แผนการจัดการเรียนรู้  จำนวน 13 แผน เวลา 13 ชั่วโมง (4) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน  และการทดสอบค่าที (t – test)

ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการเรียนสังคมศึกษาและการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้  โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเชิงบูรณาการด้วยบทเพลงและภาพ  เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์  พบว่า  ประกอบด้วยข้อมูลในด้าน 1) การพัฒนาศักยภาพครูเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้  2) การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ตามทฤษฎีการสร้างความรู้  3) การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  4) การพัฒนาสื่อและแหล่งเรียนรู้  5) การส่งเสริมความร่วมมือในการทำงานกลุ่ม  ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่ต้องการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้  โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเชิงบูรณาการด้วยบทเพลงและภาพ  และ 6) การวัดผลประเมินผลตามสภาพจริง 
2. ผลการสร้างและพัฒนาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้  โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเชิงบูรณาการด้วยบทเพลงและภาพ  เรื่องภูมิลักษณ์รักษ์วิถีภาคใต้  เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์  ประกอบด้วย 6 ขั้นตอนคือ 1) จุดประกายความคิด  2) เสวนามวลมิตร  3) พิชิตหาคำตอบ  4) ชื่นชอบนำเสนอ  5) ช่วยเธอหาข้อสรุป และ 6) ประยุกต์นำไปใช้ และมีประสิทธิภาพโดยรวม  เท่ากับ  87.17/ 88.83  สูงกว่าเกณฑ์ 80/80
3. ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้  โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเชิงบูรณาการด้วยบทเพลงและภาพ  เรื่องภูมิลักษณ์รักษ์วิถีภาคใต้  เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์  กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 คะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้  โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเชิงบูรณาการด้วยบทเพลงและภาพ  เรื่องภูมิลักษณ์รักษ์วิถีภาคใต้  เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์  กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยภาพรวมนักเรียนพึงพอใจในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.30 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า นักเรียนพึงพอใจมากเป็นอันดับ 1 คือด้านการการวัดผลและพัฒนาทักษะการคิด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.62 ระดับมากที่สุด รองลงมาคือด้านการพัฒนาคุณธรรมและการนำเสนอ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.28 ระดับมาก และนักเรียนพึงพอใจมากเป็นลำดับสุดท้ายคือด้านบรรยากาศการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.23 ระดับมาก